ข้าไม่ลังเลที่จะเข้าไป ในตัวอาคารที่ทั้งทรุดโทรมและเก่า
ชั้น1 น่าจะเป็นประชาสัมพันธ์หรือไม่ก็แผนกต้อนรับ แต่กลับเป็นสุสานเครื่องเรือน
ชั้นถัดต่อมาก็แทบไม่ต่างกันเท่าไร เพียงแต่มีทางให้เดินมากกว่าหน่อยก็เท่านั้น
ในชั้น 3 ข้าได้ยินเสียงเคาะดังแกร่กๆ
อีก3ขั้นก็จะถึงชั้น4 ข้าเห็นเด็กหนุ่มผิวสีไข่ไก่จ้องคอมพิวเตอร์พร้อมทั้งพิมพ์อะไรบางอย่างโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
เมื่อเท้าขวาแตะพื้นชั้น4 ข้าได้ยินเสียงแกร่ก ...
“แก...แกมาที่นี่ทำไม?” เสียงนี้ไม่ได้ยินมานานพอควร เสียงของคนติดตามของหมอนั่น
“มันเชิญข้ามาที่นี่เอง จำไม่ได้หรือไง?” ข้าควักนามบัตรสีเทาจากกระเป๋าเสื้อและโยนให้ทุกคนในห้องเห็น
“คาร์ลอส นายรู้จักหมอนี่เหรอ?” เด็กหนุ่มผิวขาวเสียงเล็กแหลมหันไปถามคาร์ลอส
“ลดปืนลง โครว หมอนี่เป็นคนรู้จักของดัส”
“อืมม์” เด็กหนุ่มที่ชื่อ โครวก็คงเป็นผู้ติดตามของหมอนั่นอีกเหมือนกัน ไอ้หมอนั่นชอบเลี้ยงเด็กผู้ชายไว้เยอะๆงั้นหรือ? รสนิยมน่าขยะแขยงชะมัด (นายจันทร์เสี้ยว : เอ็งยังมีหน้าว่าคนอื่นอีกเร้อะ! )
“ดัส มีคนมาหาน่ะ?” เด็กหนุ่มที่ข้าเห็นว่ากดแป้นหน้าคอมพิวเตอร์อยู่ได้ยกโทรศัพท์มือถือสีขาวขึ้นมาคุย
“จะคุยกับเขาเองไหมครับ? สักครู่นะครับ” เด็กหนุ่มผิวไข่ไก่ยื่นโทรศัพท์ของเขาให้ข้า
ดี!ข้าชอบคนแบบนี้ ทำอะไรตรงประเด็น ไม่เยิ่นเย้อให้เสียเวลา
“ว่าไงครับ คุณไรย์ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่แวะมาเยี่ยมแต่กลับไม่ได้เจอหน้า”
“ไม่ได้มาเยี่ยม แค่มีเรื่องจะถาม...”
“คงจะเป็นเรื่องภายในกลุ่ม กับสถานภาพของคุณในตอนนี้ใช่ไหมครับ?”
“
เออ” แม้จะเจ็บใจแต่ก็ต้องยอมรับว่า มันรู้เรื่องนี้แล้ว
“เรื่องที่คุณถาม ผมคิดว่า โรฮานคงรู้รายละเอียดดีกว่าผมเสียอีก”
“โรฮาน นั่นมันใคร?”
“เจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้แหละครับ” ข้ามองไปที่เจ้าของเครื่องนี้ พร้อมกับคิดในใจว่า ไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนเนี่ยนะจะรู้เรื่อง
“คุณอุตส่าห์มาหาถึงที่ จะเล่าเรื่องสำคัญ3เรื่องให้คุณฟังก็แล้วกัน
ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยคุณไปถามโรฮานเอง
เรื่องแรกกลุ่มลับกับกลุ่มกล้าที่คุณสังกัดอยู่เลิกเป็นพันธมิตรกันแล้ว
เรื่องที่สองในวันที่เกิดเหตุลอบสังหารหัวหน้ากลุ่มกล้า กลุ่มลับไม่มีใครอยู่ในที่เกิดเหตุสักคน
และเรื่องสุดท้าย คุณกำลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเรื่องนั้น
”
....ข้าถูกสงสัยว่าเป็นคนลอบสังหารท่านงั้นหรือ? เรื่องนี้มันบ้าชัดๆ ข้าตัวสั่นด้วยความโมโห ความจงรักภักดีของข้าที่มีต่อท่านกลับถูกไอ้พวกลิ่วล้อปล่อยข่าวบ่อนทำลายเสียย่อยยับ ข้ายื่นเจ้าเครื่องสีขาวคืนเจ้าของก่อนที่ข้าจะเผลอบีบมันแตกคามือ
“อ่อ ...ฮะ...เข้าใจแล้วครับ...ครับ...ครับ... สวัสดีครับ”
“ดัสเป็นยังไงบ้าง” เจ้าหนุ่มเสียงแหลม ถามด้วยความเป็นห่วง
“ดัสสบายดีครับ แล้วยังบอกอีกว่า คงจะกลับพรุ่งนี้ตอนบ่าย”
“แล้วของฝากล่ะ” ผิดกับคนติดตามที่ชื่อคาร์ลอส ซึ่งถามอย่างตะกละ
“น่าจะมีนะครับ”
“ของฝากรอบที่แล้วมันไม่เข้าท่าเอาเสียเลย!”
เหมือนพวกเขาพึ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่า ข้ายังยืนฟังอยู่ตรงนี้ด้วยจึงจงใจพูดอะไรที่เป็นการเป็นงาน
“แม้ฉันจะไม่ชอบขี้หน้านายเท่าไหร่ แต่ในเมื่อนายเป็นแขกของดัส ฉันก็จะดูแลนายอย่างเต็มที่” คาร์ลอสกอดอกและยิ้มจนเห็นฟันหน้า
“ก่อนหน้านี้ยังพูดว่า (แกมาที่นี่ทำไม!) แล้วทำไมอยู่ๆมาพูดดีได้ล่ะเนี่ย?” เด็กหนุ่มที่ชื่อ โครวพูดติงทั้งที่ยังมองออกไปนอกหน้าต่าง
“เนี่ยเขาเรียกว่า การมีมารยาทต่อแขกผู้มาเยือน เขาอุตส่าห์ถ่อมาก็ต้องต้อนรับสิ!”
“ไม่ใช่ว่า ทำดีกับแขกเอาหน้าหรอกเรอะ?”
“ไม่ใช่ๆๆ ฉันน่ะนะ ไม่เคยทำดีเพื่อหวังผลตอบแทน”
“จะเป็นอย่างนั้นแน่เร้อ จริงไหม? โรฮาน”
“หึ...นั่นน่ะสิครับ”
“จบกันภาพลักษณ์ที่อุตส่าห์สร้างขึ้นมา...”
พอเห็นเจ้าพวกนี้คุยกันอย่างสนุกสนานแล้วทำให้นึกถึงไอ้หมาน้อยที่ร่าเริงอยู่เสมอ แม้จะไม่เข้ากับบรรยากาศสักเท่าไหร่
[“ลูกพี่เอาแต่ทำหน้าปั้นปึ่งบึ้งตึงแบบนั้น เดี๋ยวอายุสั้นหรอก”
“เงียบไปน่ะ!”]
“ทุกคนเงียบก่อน! คาร์ลอสเดินออกห่างจากหน้าต่าง” เด็กหนุ่มที่ชื่อ โครว สั่งให้ทุกคนเงียบพร้อมทั้งถอยออกมาจากหน้าต่าง
“ข้างล่างมีบางอย่างผิดปกติ โรฮานดูชั้นล่างให้หน่อย”
“สักครู่นะครับ”
โรฮานขยับก้อนสีดำบนแผ่นรองสีขาวที่อยู่ข้างๆแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะรายงานผลที่ได้
“เป็นอย่างที่โครวบอกจริงๆ ”
“ทำไมเหรอ”
“ผู้ชายสองคนนี้เดินวนไปวนมาแถวนี้ เหมือนพลัดหลงกับใคร”
“สองคนนี้คงจะตามนายมา” โครวจิ้มไปที่หน้าจอแบนๆให้ข้าดูหน้าของพวกมัน“นายพอจะจำสองคนนี้ได้ไหม?”
ข้าเพ่งหน้าของมันทั้งสองคนที่มีขนาดพอๆกับหัวแม่โป้ง แต่ข้าก็ยังนึกไม่ออก
“รอเดี๋ยวนะครับ...” โรฮานสลับหน้าจอลงแล้วเรียกหน้าต่างอะไรบางอย่างที่ข้าไม่รู้เรื่อง มันพิมพ์นู่นพิมพ์นี่ กดนั่นกดนี่ จนได้ออกมาเป็นหน้าต่าง2บาน บานซ้ายเป็นภาพจากกล้องที่มีวงกลมสีแดงวงหน้ามันทั้งสองคนไว้ ส่วนบานขวาเป็นรายชื่อ
“เจอแล้ว...” มันเปิดหน้าต่างย่อยของทางขวา ขยายให้เห็นรูปหน้าตรงชัดเจน “ถ้าเป็นสองคนนี้ พอจะคุ้นหน้าไหมครับ?”
“ไอ้สองคนนี้มัน...” สองคนนั้นเป็นพวกหางแถวของมือขวาลูกชายท่าน ข้าเคยเห็นพวกมันทำตัวกร่างในบาร์เสียงคำรามอยู่บ่อยๆแต่พอ
ข้าจ้องพวกมัน พวกมันก็หงอทันที
“คงพอจะนึกออกแล้วสินะครับ ว่าสองคนนี้เป็นใคร... เมื่อครู่นี้ดัสฝากให้ผมเล่าเรื่องที่คุณอยากรู้
...ผมจะเริ่มเล่าจาก เหตุการณ์ลอบสังหารในครั้งนั้นก่อนนะครับ
การที่คุณไปเค้นเอาข้อมูลจากคนในกลุ่มตัวเองแต่กลับไม่ได้อะไรเลยนั่นก็เป็นเพราะเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น
แต่ถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือ เขาอยู่ในอีกเหตุการณ์ต่างหาก
คนที่คุณแทงจนเขาเกือบเสียมือไปข้างนึง คือ คนนี้สินะครับ
”
โรฮานเปิดบัญชีรายชื่ออีกบัญชีหนึ่งขึ้นมา
“เฮ่ย ไอ้นี่มันไอ้จอมเล่นลิ้น ที่มานัดพวกเรานี่หว่า
” คาร์ลอสโวยลั่นเมื่อเห็นภาพบนหน้าจอ
“
” ข้ายังคงเงียบและคิดตาม
“ไม่กี่วันหลังจากที่นัดหมายกันล่วงหน้า1สัปดาห์ คนๆนี้ได้มาบอกกับกลุ่มของพวกเราว่า จะขอเปลี่ยนสถานที่นัดหมาย แต่เป็นเวลาเดิม (เที่ยงวัน) โดยนัดพวกเราไปไกลจนเกือบสุดของกลุ่มสุข
ทีแรกพวกเราก็สงสัยและถามเขาว่า จะไม่มีปัญหาหรือที่ข้ามไปเขตของกลุ่มสุข เขาก็บอกเพียงว่า ได้ตกลงกับกลุ่มสุขก่อนแล้วว่าจะประชุมกันที่นั่น
เมื่อถึงวันนัดหมายพวกเราได้ไปก่อนเวลาแปดชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยและพบว่า มีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล พวกเราไหวตัวทันแต่ก็โดนปิดเส้นทางจึงไม่สามารถออกจากที่นั่นได้ทันที เวลาผ่านไปเกือบ12ชั่วโมง พวกเราถึงออกมาได้และได้รู้ข่าวว่า เกิดการลอบ
สังหารหัวหน้ากลุ่มกล้า
พวกเราปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่า กลุ่มกล้าจะได้รับผลตอบแทนบางอย่างจากกลุ่มสุขโดยใช้กลุ่มลับเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน และป้ายความผิดให้กลุ่มของพวกเราพร้อมทั้งเปลี่ยนหัวหน้ากลุ่มไปด้วย เรียกได้ว่า ยิงนัดเดียวได้นกถึง3ตัว
นกตัวแรก.กำจัดหัวหน้ากลุ่มตัวเองเพื่อชิงอำนาจ
นกตัวที่สอง.เป็นพันธมิตรกับกลุ่มสุข
นกตัวสุดท้าย.ป้ายความผิดทั้งหมดให้กลุ่มลับ
ส่วนเรื่องการแย่งชิงอำนาจกันเองภายในกลุ่มกล้า ผมคิดว่าคุณคงรู้ดีกว่าใคร เมื่อพวกเราได้ข้อสรุปแล้ว พวกเราจึงตัดสินใจเลิกเป็นพันธมิตรกับกลุ่มกล้า
และเรื่องสุดท้ายที่คุณตกเป็นผู้ต้องสงสัย
ผมสันนิษฐานว่า มันเป็นการป้ายความผิดเพื่อจะจัดการกับคุณโดยไม่ถูกครหา เพราะในวันนั้นไม่มีใครยืนยันให้ได้ว่าคุณอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่”
“บ้าน่า! ข้าให้ไอ้หมาน้อยยืนยันได้! ข้าอยู่กับมันตลอด”
“คนที่จะยืนยันได้อย่างหนักแน่นและน่าเชื่อถือจะต้องไม่ใช่ลูกน้องของคุณ ถ้าไอ้หมาน้อยที่คุณพูดถึงไม่ใช่ลูกน้องก็คงไม่เป็นปัญหา
”
โรฮานหยุดพักแล้วยกขวดน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มโดยที่ปากไม่แตะปากขวด
ส่วนอีกสองคนยังคงนั่งดื่มน้ำอัดลมกระป๋องสีเขียว และสีน้ำตาลอย่างเงียบๆเหมือนจะให้เวลาข้าได้คิดถึงสิ่งต่างๆ
ข้าได้คิดตามเรื่องที่ฟังมาโดยตลอด แม้เรื่องฟังจะไม่มีข้อขัดแย้งแม้แต่อย่างเดียวแต่ใครกันล่ะที่คิดจะแย่งชิงอำนาจมาจากท่าน
ถ้าไม่ใช่...
ความคิดอันน่ากลัวได้ผุดขึ้นพร้อมกับภาพเหตุการณ์ ลูกชายของท่านเป็นคนวางแผนเพื่อจะกุมอำนาจทั้งหมดไว้ในมือตัวเอง
แล้วน้ำตาในวันนั้นล่ะ...น้ำตาที่ไหลออกมาในวันที่ฝังร่างของท่านลงใต้ดิน
มันก็คงจะเป็นน้ำตาจอมปลอมเช่นเดียวกับใบหน้าเศร้าที่แปะทับรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ
ข้าควบคุมร่างกายของตัวเองให้หยุดสั่นด้วยแรงโกรธต่อไปไม่ไหวแล้ว...
ข้าออกมาจากอาคาร4ชั้นโดยไม่ฟังเสียงใคร เพราะในตอนนี้ข้าพอจะเดาเป้าหมายต่อไปของมันออกแล้ว
มันสะกดรอยตามข้าเพื่อที่จะดูว่า ข้ามีเส้นสายหรือมีกลุ่มใดสนับสนุนหรือไม่
และเมื่อพบว่า ข้าไม่มี พวกมันก็จะ...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น